ยอดคนตายที่รวบรวม จนถึงวันอังคาร (22 เดือนพฤศจิกายน) จากเหตุ แผ่นดินไหว เขย่าจังหวัดชวาตะวันตก ของอินโดนีเซีย พุ่งพรวดขึ้นมาเป็นขั้นต่ำ 268 คน จำนวนมากเป็นเด็กๆ ในขณะที่ยังมีผู้สูญหายอีก 151 คน พวกเจ้าหน้าที่บรรเทาสาธารณภัยระบุ ในขณะที่หน่วยกู้ภัย เที่ยวค้นหาผู้มีชีวิตรอดซึ่งติดอยู่ ตามซากหักพัง ของตึกที่พังทลายถล่มลงมา
แผ่นดินไหวคราวนี้ซึ่งวัดความรุนแรงได้ 5.6 แมกนิจูด ทว่าศูนย์กลาง อยู่ในระดับ ค่อนข้างตื้น ถล่มใส่ จังหวัด ที่มีประชากรหนาแน่นที่สุด ของอินโดนีเซีย ตอนช่วงเวลาบ่าย 13.00 น.วันจันทร์ (21) ทำความเสียหายให้แก่ เมืองซิอันจูร์ ซึ่งอยู่ห่างจากเมืองหลวง จาการ์ตา ไปทางตะวันออกเฉียงใต้ ราว 75 กิโลเมตร และฝังหมู่บ้านขั้นต่ำ 1 แห่งให้จม อยู่ใต้ดินโคลน ซึ่งถล่มตามลงมา
ซูฮาร์ยันโต ผู้อำนวยการ สำนักงานบรรเทาภัยพิบัติ ของอินโดนีเซีย หรือบีเอ็นพีบี บอกกับ พวกผู้รายงานข่าวว่า นอกจากคนตายแล้ว ยังมีคนที่บาดเจ็บมากกว่า 1,000 คน ผู้ที่ต้องหาบ้านพักใหม่ชั่วครั้งคราว 58,000 คน และบ้านที่พักเสียหายราว22,000 หลัง
ในขณะที่ เฮนรี อัลฟิอันดี ผู้อำนวยการ ของสำนักงานค้นหา และกู้ภัยแห่งชาติ (บาซาร์นาส) แถลงว่า การที่มี ดินโคลนถล่ม ในหลายๆ จุด และพื้นดินที่แข็งเนื่องจากว่าแถบนี้ เป็นเขตภูเขา เป็นปัญหาต่อความพยายาม ในการกู้ภัย
นอกเหนือจากนี้ พื้นที่ประสบภัย ยังแผ่กว้าง ในขณะที่ถนนหนทางเชื่อมระหว่างหมู่บ้านต่างๆ บริเวณนี้ต่างได้รับความเสียหาย ก็นับว่าเป็น ความท้าทายสำคัญ อัลฟิอันดี กล่าวต่อ
สำหรับเหยื่อคนตาย แผ่นดินไหว
โดยจำนวนมาก เป็นเด็กๆ ซึ่งอยู่ในโรงเรียน ในตอนที่แผ่นดินไหว
เท่าที่ผ่านมา อินโดนีเซียมักเผชิญแผ่นดินไหว ที่มีความรุนแรง กว่าครั้งนี้ นั่นคือ ระดับ 6 หรือ 7 แต่ว่าบ่อยครั้งเป็นพื้นที่ใต้ทะเล สำหรับคราวนี้แม้ความรุนแรงต่ำกว่า ก็ทำความเสียหายหนักกว่ามากมาย เนื่องจากว่าศูนย์กลาง แผ่นดินไหวล่าสุด อยู่ในระดับค่อนข้างจะตื้น นั่นคือ ลึกลงจากพื้นดินราว10 กิโลเมตร
พวกเจ้าหน้าที่ บอกด้วยว่า เหยื่อจำนวนมากเสียชีวิตเนื่องจากว่า ตึกต่างๆ ที่ก่อสร้างอย่างไม่แข็งแรง เกิดถล่มลงมา
ทางด้าน ประธานาธิบดี โจโค วิโดโด กล่าวระหว่างเดินทาง ไปตรวจสอบพื้นที่ประสบภัย เมื่อวันอังคาร (22) ว่า ได้สั่งการ ให้เจ้าหน้าที่รีบค้นหาผู้รอดชีวิตที่ยังติดอยู่ ใต้ซากอาคารบ้านเรือน เป็นอันดับแรก
นอกจากนั้นผู้นำอินโดนีเซีย ยังแสดงความเสียใจ ต่อครอบครัว ผู้ประสบเหตุ รวมทั้งประกาศว่า รัฐบาลจะให้การสนับสนุนฉุกเฉิน โดยการฟื้นฟูบูรณะ จะรวมถึงโครงการสร้างที่พักอาศัย ซึ่งต้านแผ่นดินไหวได้ เพื่อป้องกันภัยพิบัติธรรมชาติ ในอนาคต
ทั้งนี้ หลังจากแผ่นดินไหว เมื่อวันจันทร์ คนที่ได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก ถูกนำตัว ไปยังพื้นที่จอดรถยนต์ของโรงพยาบาล ในเมืองซีอันจูร์ บางคนได้รับการดูแลรักษาในเต็นท์ชั่วคราว บางคนได้รับน้ำเกลือ บนทางเท้า และเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์รักษาคนเจ็บโดยอาศัยแสงจากคบเพลิง
คลิปจากคอมพาส ทีวี เปิดเผยให้เห็นประชากรในพื้นที่ประสบภัย ถือกล่องกระดาษ ที่เขียนข้อความ ขอรับบริจาคอาหาร รวมทั้งที่พักพิง ในขณะที่ความช่วยเหลือฉุกเฉิน ยังไปไม่ถึง
เดดิ ปราเซ็ตโย โฆษกสำนักงาน ตำรวจแห่งชาติ แถลงว่า ตำรวจหลายร้อยนาย ถูกส่งไปช่วยเหลือปฏิบัติการกู้ภัย และภารกิจหลัก คือค้นหาและอพยพผู้ประสบภัย
ริดวาน คามิล ผู้ว่าราชการ จังหวัดชวาตะวันตกกล่าวเวลาเช้าวันอังคารว่า มีคนตาย 162 คน ในขณะที่ตัวเลขคนตายจากสำนักงานภัยพิบัติแห่งชาติ (บีเอ็นพีบี) อยู่ที่ 103 คน รวมทั้งสูญหาย 31 คน
อย่างไรก็แล้วแต่ ในเวลาต่อมาตัวเลขคนตายถูกปรับขึ้น เป็นอย่างน้อย 268 คน
เจ้าหน้าที่กู้ภัยยังประสบพบเจอกับปัญหาจากไฟฟ้าดับ ในบางพื้นที่ และเกิดอาฟเตอร์ช็อกมากกว่า 100 ครั้ง
อินโดนีเซีย ตั้งอยู่บน “วงแหวนไฟ” ในมหาสมุทรแปซิฟิค
ที่เปลือกโลกสองแผ่น มาบรรจบกัน ก่อให้เกิดแผ่นดินไหวรวมทั้งภูเขาไฟระเบิดบ่อยครั้ง
เมื่อมกราคม ปีที่ผ่านมา เกิด รายงานแผ่นดินไหว ความแรง 6.2 ที่เกาะสุลาเวสี ทำให้มีคนตายกว่า 100 คน รวมทั้งย้อนกลับไปในปี 2004 เกิดแผ่นดินไหว ความแรง 9.1 นอกชายฝั่ง เกาะสุมาตรา ที่ก่อให้เกิดสึนามิ ซึ่งส่งผลกระทบต่อ 14 ประเทศ รวมทั้งมีคนตาย 226,000 คน
นอกจากนั้น เมื่อวันอังคารยังเกิดแผ่นดินไหวใหญ่ 2 ครั้ง ที่หมู่เกาะโซโลมอน ทำให้สถานเอกอัครราชทูตประเทศออสเตรเลีย ท่าอากาศยาน รวมทั้งห้างได้รับความเสียหาย และก็ยังทำให้เจ้าหน้าที่ต้องดับไฟในกรุงโฮนีอารา อย่างไรก็แล้วแต่ ไม่มีการออกประกาศ เตือนสึนามิแต่อย่างใด
สำนักงานสำรวจธรณีวิทยา ของสหรัฐอเมริกา เปิดเผยว่า แผ่นดินไหวครั้งแรก เกิดขึ้นนอกชายฝั่ง ที่ความลึก 15 กิโลเมตร วัดความแรงได้ 7.3 ก่อนจะปรับตัวเลข ลงมาอยู่ที่ 7.0 ส่วนครั้งที่ 2 มีความแรง 6.0 รวมทั้งเกิดขึ้นห่างกัน 30 นาที
ไบรอัน โทมู เจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์สำนักงานบริหารจัดการภัยพิบัติแห่งชาติ เปิดเผยว่า จุดสนใจหลัก อยู่ที่เกาะกวา ดัลคาแนล ซึ่งเป็นที่ตั้ง กรุงโฮนีอารา รวมทั้งอยู่ใกล้พื้นที่ เหนือศูนย์กลางแผ่นดินไหวมากที่สุด
อย่างไรก็แล้วแต่ ยังไม่มีรายงานคนที่บาดเจ็บรุนแรง และความเสียหายเชิงโครงสร้างขนาดใหญ่แต่อย่างใด แต่ บางพื้นที่ ในเมืองหลวง มีการดับไฟฟ้าในทันที เพื่อประเมินความเสียหาย ของสายไฟฟ้าเบื้องต้น นอกจากนั้นยังไม่สามารถใช้โทรศัพท์พื้นฐานได้
ที่มา: รอยเตอร์(Reuters Breaking International News & Views), เอเอฟพี(AFP), เอพี(AP)